หลักการเลือกซื้อรถชมวิวมีอะไรบ้าง ?

รถชมวิว คือ รถโดยสารหลายที่นั่ง เป็นรถขนาดกลางและใหญ่จะคล้ายกับรถกอล์ฟ ซึ่งรถชมวิวราคาจะสูงกว่ารถกอล์ฟหลายเท่า แต่นั่นก็ขึ้นกับแบรนด์ด้วย รถชมวิวมีตั้งแต่จำนวนที่นั่ง 5 ที่ ไปจนถึง 23 ที่รวมคนขับ ใช้สำหรับขนคนจำนวนมาก หรือขนส่งมวลชนต่างๆ เช่น ในมหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า อุทยาน รีสอร์ท สวนสัตว์ สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เป็นต้น ลักษณะของตัวรถมักจะมีด้านข้างที่เปิดโล่ง ไร้หน้าต่าง ทำให้ผู้โดยสารได้รับลมและชมทัศนียภาพรอบด้านได้อย่างเต็มที่ มีหลังคาที่ใช้กันแดดกันฝน เพื่อที่จะทำให้ผู้นั่งโดยสารเกิดความสะดวกสบายและได้พักผ่อนขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัว สำหรับหลักการเลือกซื้อรถชมวิวนั้น เพื่อที่จะมาใช้ประกอบร่วมกับธุรกิจต่างๆ ควรมีวิธีการดังนี้ ที่จะได้รถชมวิวราคาสุดคุ้ม 

• งบประมาณในการซื้อ 

ในตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งรถชมวิวสำหรับธุรกิจนั้นราคาจะมาพร้อมคุณภาพอยู่แล้ว สำหรับแบรนด์ดังๆ ก็จะมีการขึ้นชื่อความแข็งแกร่งและทนทาน ราคาค่อนข้างสูงในตลาด  

• ลักษณะการใช้งาน 

หากต้องการรับผู้โดยสารโดยทั่วไป จะนิยมใช้รถชมวิว 8 ที่นั่ง ถึง 9 ที่พบเห็นส่วนใหญ่ตาม อุทยาน  สวนสัตว์  และรีสอร์ทต่างๆ ดังนั้นหลักการใช้งานนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นๆด้วย 

• การดูแลรักษา 

การดูแลรักษานั้นง่ายดาย หัวใจสำคัญที่สุดคือเรื่องแบตเตอรี่ หมั่นชาร์จไฟอยู่เสมอ เช็คน้ำกลั่นทุกอาทิตย์ หากปล่อยให้แบตเตอร์รี่หมดบ่อยเซลส์แบตจะตายไว รอบการชาร์จก็จะลดลง หากดูแลอย่างถูกวิธีแล้ว แบตเตอรี่จะคงทนอยู่ได้นาน 

• การบริการหลังการขาย 

เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นสินค้าเฉพาะทาง หาผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมค่อนข้างยาก ควรเลือกซื้อกับผู้ที่มีศูนย์บริการครบวงจรและมีความน่าเชื่อ 

• อะไหล่ของรถชมวิว 

หากเลือกซื้อรถชมวิวกับผู้ขายที่มีศูนย์บริการแล้ว จะหมดห่วงเรื่องอะไหล่ การซ่อมแซม ในตลาดเมืองไทยบางรุ่นไม่มีอะไหล่รองรับ ทำให้ยากแก่การซ่อมแซม  

อย่างไรก็ตาม รถชมวิวที่เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้า จึงเป็นที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่รักโลกปราศจากมลพิษและฝุ่นละออง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องนำไปวิ่งในสวนสัตว์หรืออุทยานที่มีสัตว์น้อยใหญ่อยู่ด้วย เพราะไม่ใช่แค่มนุษย์อย่างเราๆ เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบต่อมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่ถูกปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย พวกสัตว์น้อยใหญ่เหล่านั้นก็เช่นกัน ดังนั้นหากอยากให้ความสำคัญต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมโลก จึงสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การใช้รถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง